เรื่อง ค่าของน้ำ
การประปาส่วนภูมิภาค
เป็นองค์กรที่รับผิดชอบในการก่อสร้างและบริหารงานเกี่ยวกับกิจการประปาส่วนภูมิภาค และชนบทต่าง
ๆ
การดำเนินงานจัดหาน้ำสะอาดในชนบทที่ได้เริ่มดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า น้ำเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพอนามัยที่ดี การมีน้ำสะอาดไว้ดื่มและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเพียงพอ รวมทั้งการมีการสุขาภิบาลที่ดี ย่อมเป็นพื้นฐานในการทำให้ประชาชนมีคุณภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บอันเนื่องมาจากน้ำ งานจัดหาน้ำสะอาดในชนบทได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการกรมอนามัย พ.ศ.
2496
โดยให้กองช่างสุขาภิบาลเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านออกแบบและควบคุมการก่อสร้างอาคารสถานที่ราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและมีบทบาทในการพัฒนาระบบการจัดหาน้ำสะอาด
และมีหน้าที่ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำให้สะอาดและส่งถึงประชาชนโดยสะดวกและปลอดภัย
ต่อมาความต้องการน้ำสะอาดสำหรับใช้อุปโภคบริโภคได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น
การผลิตและการจำหน่ายโดยการให้บริการของกองประปาส่วนภูมิภาค คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อ 9 พฤษภาคม
2521
ให้มีการปรับรูปแบบการบริหารกิจการประปาส่วนภูมิภาคเป็นแบบรัฐวิสาหกิจ ซึ่งต่อมาได้มีการจัดตั้ง การประปาส่วนภูมิภาคหรือ กปภ.
ขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2522 โดยรวมกิจการประปาภูมิภาคของกรมโยธาธิการการจำนวน 185
แห่ง
กับกิจการประปาชนบทของกรมอนามัยจำนวน
550 แห่ง
เข้ามาดำเนินงานในรูปแบบรัฐวิสาหกิจช่วงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 และฉบับที่
6 คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้ให้เป็นช่วงของทศวรรษการจักการน้ำสะอาดและสุขาภิบาลในประเทศไทยขึ้น เพื่อให้มีการรณรงค์ให้ประชาชนในประเทศไทย จำนวนร้อยละ
95 มีน้ำสะอาดไว้อุปโภคบริโภค
โดยให้มีน้ำสะอาดเพียงพอสำหรับดื่มอย่างน้อย 5
ลิตร
ต่อคนต่อวัน และน้ำใช้เพียงพอ 45 ลิตร
ต่อคนต่อวัน ภายในปี พ.ศ.
2534
ขณะนั้นกรมอนามัยซึ่งรับผิดชอบงานเจาะบาดาลอยู่
จึงได้ปรับปรุงงานด้านการจัดสร้างระบบปาปาหมู่บ้านอีกครั้ง โดยก่อสร้างระบบหมู่บ้านในพื้นที่ที่อยู่นอกเขตเทศบาลและเขตสุขาภิบาล เพื่อให้ประชาชนในชนบทห่างไกลได้มีน้ำสะอาดจากระบบประปาใช้สำหรับอุปโภค
บริโภคอย่างทั่งถึง
โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านตั้งแต่ปี พ.ศ.
2525 เป็นต้นมา
และจากประสบการที่ผ่านมาของกรมอนามัยในด้านการบริหารกิจการประปา พบว่าการบริหารกิจการประปาให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่เพียงแต่มีโครงสร้างระบบประปาที่ดีเท่านั้น
สิ่งสำคัญต้องมีระบบบริหารจัดการที่มีระบบ มีการบริหารงานบุคคล การผลิต
การจำหน่ายน้ำประปา
ตลอดจนมีการให้บริการด้านต่าง
ๆ
โดยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารกิจการประปา เพื่อให้มีผลประกอบการที่ดี ซึ่งทำให้ระบบประปาสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนดังนั้น
เมื่อกรมอนามัยก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านแล้วเสร็จจะยกมอบอำนาจการบริหารให้แก่คณะกรรมการระบบประปาหมู่บ้าน
ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นทำหน้าที่บริหารกิจการประปาหมู่บ้าน โดยกรมอนามัยได้กำหนดให้มีการเตรียมชุมชนให้แก่ท้องถิ่นนั้น ๆ
เพื่อให้ประชาชน
ได้มีโอกาสมาประชุมปรึกษาหารือและรับทราบ
แนวทางการการบริหารกิจการระบบประปา
และมีส่วนร่วมในการดูแลในการก่อสร้างระบบประปา
หลังจากก่อสร้างระบบประปาเสร็จแล้วกรมอนามัยก็มีการอบรมให้ความรู้ด้านการผลิตน้ำประปา การบำรุงรักษาระบบประปา ทำให้ผลการดำเนินงานของกิจการประปาส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จ
รัฐบาลมีนโยบายก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านให้แก่ประชาชนที่มีความขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ โดยถือว่าระบบประปาชนบทเป็นบริการขั้นพื้นฐานไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นรูปธรรมคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่
6 สิงหาคม 2534 อนุมัติให้ใช้แผนเร่งรัดจัดให้มีน้ำสะอาดในชนบท
ตามที่สำนักงานคณะกรรมพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำขึ้น เป็นกรอบสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ
กรมอนามัย กรมโยธาธิการ กรมทรัพยากรธรณี สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท และการประปาส่วนภูมิภาค ใช้ประกอบการจัดทำโครงการก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านต่อไป
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีน้ำสะอาดใช้อุปโภคบริโภค โดยระบบประปาอย่างทั่วถึง โดยได้กำหนดเป้าหมายให้ก่อสร้างระบบประปาเพิ่มขึ้น 41,152 หมู่บ้าน ภายในปี
2544
หรือครอบคลุมร้อยละ 70 ของหมู่บ้าน ต่อมาในปี
พ.ศ. 2535
รัฐบาลได้นำแนวทางการบริหารกิจการประปาของกรมอนามัยกำหนดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาชนบท พ.ศ.
2535
ซึ่งระเบียบนี้แสดงเจตนารมณ์ไว้เพื่อให้การบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบชนบทที่รัฐบาลลงทุนก่อสร้างนั้นเป็นไปในเชิงธุรกิจ สามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เป็นภาระของรัฐ
การผลิต และการจำหน่ายน้ำประปา
ของการประปาส่วนภูมิภาค ปีงบประมาณ 2550 – 2554มีผลต่อจำนวนผู้ใช้น้ำ และปริมาณน้ำที่จำหน่ายของการประปาส่วนภูมิภาค
ประมาณการกำหนดเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายในตารงที่ 1 ในแต่ละปีจะมีปริมาณการผลิตมากกว่าจำหน่าย
ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายน้ำประปา
กราฟที่ 1 จำนวนประชากรที่ใช้น้ำ
ประชากรใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค
จำนวนประชากรที่ใช้น้ำในแต่ละปีก็ได้เพิ่มขึ้นเรื่อย น้ำเป็นปัจจัยพื้นฐาน
ประชากรต้องการน้ำไว้อุปโภคบริโภค เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี ปราศจากโรคภัย
จำนวนผู้ที่ใช้น้ำเพิ่มขึ้นเรื่อย
ดังกราฟที่
1 ตั้งแต่ พ.ศ.
2550 มีปริมาณประชากรที่ใช้น้ำ 2,628,470 คน พ.ศ.
2551 มีปริมาณประชากรที่ใช้น้ำ 2,771,418
คน พ.ศ. 2552
มีปริมาณประชากรที่ใช้น้ำ 2,935,356
คน พ.ศ. 2553
มีปริมาณประชากรที่ใช้น้ำ 3,106,914
คน พ.ศ. 2554
มีปริมาณประชากรที่ใช้น้ำ 3,265,334
คน
จะเห็นว่าในแต่ละปีจะมีผู้ที่ใช้น้ำเพิ่มขึ้น
ปริมาณการผลิตประปาได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีประชากรเพิ่มขึ้นและก็มีความต้องการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค น้ำจึงต้องมีการผลิตเพิ่มมากขึ้น
เพื่อให้เพียงพอแก่ประชากรที่ต้องการใช้น้ำ ดังตารางที่ 2 ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้น ในพ.ศ. 2550
จะมีการผลิตน้ำประมาณ
1,111.60 ลบ.ม. พ.ศ.
2551 จะมีการผลิตน้ำประมาณ 1,177.20 ลบ.ม. พ.ศ.
2552 จะมีการผลิตน้ำประมาณ 1,245.50 ลบ.ม. พ.ศ.
2553 จะมีการผลิตน้ำประมาณ 1,380 ลบ.ม. พ.ศ.
2554 จะมีการผลิตน้ำประมาณ 1,381.60 ลบ.ม. จะเห็นว่ามีปริมาณการผลิตน้ำเพิ่มขึ้น
กราฟที่ 2 ปริมาณการผลิตน้ำ
ปริมาณการจำหน่ายน้ำในแต่ละปีก็ได้เพิ่มขึ้น ประชากรเพิ่มขึ้นก็ย่อมมีการใช้น้ำเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา เราจะเห็นได้ว่าในกราฟที่ 3 จะมีการผลิตเพิ่มเหมือนกัน เปรียบเทียบปริมาณการผลิตในกราฟที่ 3 จะพบว่าปริมาณการผลิตน้ำสูงกว่าปริมาณการจำหน่าย
ปริมาณในการจำหน่ายน้ำในแต่ละปีก็ได้เพิ่มขึ้น ดังกราฟที่ 3 จะเห็นว่า ในพ.ศ. 2550 จะมีปริมาณการจำหน่าย 794.7 ลบ.ม. พ.ศ.
2551 จะมีปริมาณการจำหน่าย 84.9
ลบ.ม. พ.ศ. 2552
จะมีปริมาณการจำหน่าย
883.6 ลบ.ม. พ.ศ.
2553จะมีปริมาณการจำหน่าย 959.6 ลบ.ม. พ.ศ.
2554 จะมีปริมาณการจำหน่าย 982.4 ลบ.ม. จะมีการเพิ่มขึ้นทุกปี
กราฟที่
3 ปริมาณการการจำหน่าย
ค่าเฉลี่ยในแต่ละวันจะมีผู้ที่ใช้น้ำประมาณ 25 % ต่อรายต่อเดือน
น้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่มนุษย์ต้องการ
น้ำมีความสำคัญในการดำรงชีวิต
ดังนั้นทุกคนต้องการใช้น้ำ
ปริมาณการใช้น้ำจะเป็นดังกราฟที่ 4 จะเห็นว่า ในปีพ.ศ. 2550
มีการใช้น้ำเฉลี่ย 25% ลบ.ม./ราย/เดือน พ.ศ.
2551 มีการใช้น้ำเฉลี่ย 25%
ลบ.ม./ราย/เดือน
พ.ศ. 2552 มีการใช้น้ำเฉลี่ย 25%
ลบ.ม./ราย/เดือน
พ.ศ. 2553 มีการใช้น้ำเฉลี่ย 25%
ลบ.ม./ราย/เดือน
กราฟที่ 4 ค่าเฉลี่ยในการใช้น้ำ/ราย/เดือน
สรุป
น้ำเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต
มนุษย์เราย่อมต้องการน้ำที่สะอาดในการอุปโภคบริโภค เพื่อสุขภาพอนามัยที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เราจะเห็นว่าปริมาณการใช้น้ำของแต่ละคนมีปริมาณเท่าเดิมแต่ปริมาณในการผลิต การจำหน่าย
สูงขึ้นในแต่ละปี เป็นเพราะมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ในเมื่อมีประชากรเพิ่มมากขึ้นก็ย่อมต้องการที่จะใช้น้ำในการอุปโภคบริโภคในการดำรงชีวิตเหมือนกัน น้ำเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์
มนุษย์ทุกคนมีการใช้น้ำในชีวิตประจำวันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง ล้วนแล้วแต่ต้องการน้ำด้วยกันทั้งสิ้น
การประปาส่วนภูมิภาคจึงต้องมีการผลิตน้ำเพิ่มขึ้น ให้เพียงพอต่อจำนวนประชากร
อ้างอิง
http://th.wikipedia.org/wiki
ตรวจแล้ว
ตอบลบอ.กนกพร